How To ถ่ายรูป พรีเวดดิ้งที่น้ำตกให้สวย

หากจะกล่าวถึงหนึ่งในสถานที่ซึ่งถูกใช้เป็นโลเกชั่นในการถ่ายรูปพรีเวดดิ้งสไตล์ธรรมชาติติดแหล่งน้ำบ่อย ๆ ก็ต้องยกให้ “น้ำตก” เป็นสถานที่ยอดฮิตสำหรับคู่รักที่อยากจะหารูปถ่ายพรีเวดดิ้งสวย ๆ ในเขาและอุทยานแห่งชาติที่เลือกได้หลากหลายแห่งที่คนไม่เยอะ รวมถึงมีมุมน้ำตกที่งดงามอลังการอย่างเป็นเอกลักษณ์มาก ๆ ในหลายจังหวัด ด้วยความวิเศษของภาพถ่ายพรีเวดดิ้งกับน้ำตกนั้นมักจะทำให้พวกคุณได้ภาพของสายน้ำที่ไหลลงมาเป็นฉากหลังแบบฟู ๆ เหมือนหล่นลงมาจากฟ้าเห็นเป็นหยดน้ำกระเซ็นอย่างงดงามและทำให้ภาพถ่ายได้ความมีชีวิตชีวาที่รู้สึกได้ผ่านการถ่ายทอดด้วย แต่การที่จะให้ภาพถ่ายพรีเวดดิ้งกับน้ำตกมีความสวยงามเด็ด ๆ เหมาะแก่การเอาไปโชว์ในงานแต่งงานนั้นก็ย่อมต้องรู้เทคนิคการถ่ายให้เหมาะกับเวลาและมุมมองที่ช่างภาพเลือกด้วย ซึ่งในวันนี้เราก็จะมาแนะนำ How To ถ่ายรูป พรีเวดดิ้งที่น้ำตกให้สวยงามจนต้องร้องว้าวกันเลยทีเดียว How To ถ่ายรูป พรีเวดดิ้งที่น้ำตกสไตล์ธรรมชาติ ถ่ายรูปพรีเวดดิ้งที่น้ำตกให้สวยด้วยใบไม้ที่เปลี่ยนสี การถ่ายรูปพรีเวดดิ้งที่น้ำตกให้สวยควรอย่างมากแก่การเลือกช่วงเวลาที่ป่าไม้ในสถานที่ป่าเขาหรืออุทยานแห่งชาติที่คุณวางแผนจะไปถ่ายรูปพรีเวดดิ้งมีการเปลี่ยนสีในโทนที่อบอุ่นอย่างสีเหลือง สีส้ม และสีแดง ทำให้ต้นไม้ทุกต้นบริเวณน้ำตกที่ไหลลงมาและลำธารเต็มไปด้วยความสวยงามของป่าไม้เปลี่ยนสีเหมือนกับอยู่ในต่างประเทศมาก ๆ หรือหากรอให้ใบไม้เปลี่ยนสีไม่ทันก็อาจจะหาใบไม้สีอุ่นมาจากที่อื่นแล้วโปรยลงมาบริเวณที่คู่บ่าวสาวโพสต์ท่าคู่กันก็จะทำให้มองดูโรแมนติกเหมือนได้ยืนใต้ใบไม้ที่ร่วงหล่นเปลี่ยนสีริมน้ำตกได้ ถ่ายรูปพรีเวดดิ้งที่น้ำตกให้สวยหลังม่านน้ำตก การถ่ายรูปพรีเวดดิ้งที่น้ำตกให้สวยชวนให้มองดูลึกลับแล้วล่ะก็หลังม่านน้ำตกเป็นอีกหนึ่งจุดที่จะทำให้การถ่ายรูปพรีเวดดิ้งที่น้ำตกคอมพลีทได้อย่างอลังการมากเลยทีเดียว เพียงแค่พวกคุณหาน้ำตกที่มีถ้ำหรือม่านน้ำตกพื้นที่ใหญ่มากพอให้ปีนขึ้นมานั่งหรือยืนด้านหลังน้ำตกที่ตกลงมาเป็นสายได้ ก็จะทำให้คุณได้ภาพงดงามสุดเอ็กซ์คลูซีฟราวกับอยู่ในถ้ำที่ฉากหน้าเป็นมวลน้ำตกที่ไหลลงมาเป็นม่านอย่างงดงามแล้ว ถ่ายรูปพรีเวดดิ้งที่น้ำตกให้สวยด้วยโขดหินริมธาร โขดหินริมธารและริมสระน้ำตกย่อมจะสามารถทำให้การถ่ายรูปพรีเวดดิ้งที่น้ำตกสวยงามได้เช่นกัน เพราะผืนท้องน้ำส่วนใหญ่มักจะเป็นสีใสจนเห็นทรายเบื้องล่างหรือไม่ก็เป็นสีมรกตจนตัดกับโขดหินใหญ่ ๆ ได้อย่างเนเจอรัลมาก เหมาะแก่การที่คู่บ่าวสาวจะได้ไปนั่งถ่ายรูป ยิ่งเป็นโขดหินที่มองเห็นน้ำตกเป็นฉากหลังยิ่งจะทำให้ภาพมีการเคลื่อนไหวที่งดงามได้เอกลักษณ์ของเสน่ห์หนึ่งเดียวในน้ำตกนั้นเป็นอย่างดี อัพเดทข่าวสาร สาระดีๆ เพิ่มเติมที่ The7days #พรีเวดดิ้ง #ทริคถ่ายรูป
ขนมยอดฮิต สำหรับงานเลี้ยงแต่งงาน

สำหรับคู่บ่าวสาวหรือครอบครัวของคู่บ่าวสาวใดที่ตอนนี้คิดแพลนการจัดงานแต่งงานไว้เรียบร้อยหมดแล้ว เหลือแค่เพียงจุดเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างการเลือกของรับประทานเพื่อรองรับแขกเหรื่อที่ให้เกียรติมาร่วมงานแต่งงานก็เท่านั้น โดยที่พวกคุณมีเป้าหมายจะให้งานแต่งงานมีบรรยากาศที่เรียบง่ายและการจัดงานที่ใช้เวลาไม่มาก รวมถึงยังประหยัดงบได้อีกด้วยล่ะก็การใช้ทริกงานแต่งงานยุคใหม่ที่ไม่ใช้โต๊ะจีน แต่เป็นการให้แขกเหรื่อได้ตักของรับประทานกันเองแบบบุปเฟ่ต์ซึ่งเน้นไปทางของรับประทานง่าย ๆ อย่างของทานเล่นและขนมหวานเท่านั้นก็จะไม่ต้องรอเวลานานกว่าจะดูแลพื้นที่จัดเก็บงานแต่งงานให้เรียบร้อย แล้วยังต้องทำพิธีส่งตัวเข้าหอหรือให้เวลาคู่บ่าวสาวได้พักผ่อนอีก ง่าย ๆ เพียงแค่หลังเสร็จสิ้นพิธีงานแต่งงานที่สำคัญก็ให้แขกเหรื่อได้ตัดขนมบุฟเฟ่ต์แล้วพูดคุยอวยพรให้แก่คู่บ่าวสาวกันก็เป็นอันเสร็จ แถมงานแต่งงานก็เหมาะกับการเสริมบรรยากาศหวาน ๆ ด้วยขนมหวานเน้น ๆ ไปอีก ซึ่งควรเลือกให้มี ขนมยอดฮิต ขนมใดมาบริการแขกสำหรับงานเลี้ยงแต่งงานเป็นหลักมาดูกัน รู้จักกับ 3 ขนมยอดฮิต สำหรับงานเลี้ยงแต่งงาน “ขนมไทยบุฟเฟ่ต์” ขนมยอดฮิตสำหรับงานเลี้ยงแต่งงาน “ขนมไทยบุฟเฟ่ต์” เป็นขนมยอดฮิตสำหรับงานเลี้ยงแต่งงาน เพราะขนมหวานไทยมงคลมักจะมีสีสันรูปลักษณ์ที่สวยงามมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองเข้ากับวัฒนธรรมงานแต่งงานตามแบบไทย ๆ เป็นอย่างดี กลิ่นก็หอมอร่อย เนื้อนุ่มอร่อย ยิ่งเน้นกลุ่มขนมหวานที่มีการอบควันเทียนมาในสูตรด้วยยิ่งติดใจแขกเหรื่อทุกเพศทุกวัยอย่างมาก ซึ่งก็เสิร์ฟมาวางแบบใส่ถาดรองด้วยใบตองพับสวย ๆ ให้แขกเหรื่อได้เลือกตักหลากหลายเมนูขนมหวานไทยก็จะดีมาก เพราะบางคนก็ชอบขนมไทยแตกต่างกันไป “คัพเค้กความรัก” ขนมยอดฮิตสำหรับงานเลี้ยงแต่งงาน “คัพเค้กความรัก” เป็นขนมยอดฮิตสำหรับงานเลี้ยงแต่งงานที่มีความโดดเด่นในขนมหวานเรียบง่ายที่มีการแต่งหน้าและรูปลักษณ์ที่สวยงามหรูหราเป็นทางการเข้ากับพิธีแต่งงานได้ดี เพียงแค่มองบริเวณโต๊ะบุฟเฟ่ต์ก็จะเห็นถ้วยกระดาษที่ภายในมีเค้กอบตกแต่งด้วยหน้าครีมที่มีสัญลักษณ์ของคู่บ่าวสาวหรือพวกน้ำตาล คุกกี้ลายหัวใจเป็นท็อปปิ้งจัดเต็มเรียงรายจัดเป็นชั้น ๆ ให้แขกเหรื่อหยิบมารับประทานกันได้แล้ว “วุ้นหัวใจ” ขนมยอดฮิตสำหรับงานเลี้ยงแต่งงาน […]
แนวการคิดบวก เพื่อมูฟออน

การผิดหวังจากความรักเป็นเรื่องธรรมดาที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน ไม่ว่าคุณจะเจ็บปวดจากความรักในแฟนเก่าที่รักกันมานานมากแต่ก็ไม่สามารถจับมือกันแน่นพอ หรือ เจ็บปวดจากการที่รักเขาข้างเดียวและสุดท้ายอีกฝ่ายก็ได้ปฏิเสธรักไปแบบรวดเร็ว ทุกอย่างย่อมจะทำให้ใครต่อใครก็เกิดอารมณ์แง่ลบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เมื่อเกดเหตุการณ์เหล่านี้ เช่น ฉันดีไม่พอที่จะเป็นคนรักของใครเลยหรือ? ฉันไม่ดีในสายตาเขาตรงไหน อุตส่าห์พยายามแล้ว? ทำไมเขาถึงไปมีคนอื่น หรือทำไมเขาถึงทำแบบนู้นแบบนี้กับฉัน คำถามที่เอาแต่บ่นตัวเองและบ่นเขาล้วนแล้วแต่จะประเดประดังเข้ามาในหัวของคุณอย่างห้ามไม่อยู่ แต่สุดท้ายแล้วคุณก็จะสามารถมูฟออนได้แน่นอนไม่ช้าก็เร็ว บางคนอาจจะต้องใช้เวลาหลายปี วันนี้เราจึงอยากมาแนะนำ แนวการคิดบวก เพื่อมูฟออนจากรักที่ไม่สมหวังแล้วเห็นคุณค่าที่มีอยู่ในตัวคุณเองมากขึ้นเพื่อเตรียมพร้อมกับวันใหม่ “สักวันเราต้องพบกับรักแท้ของเรา” แนวการคิดบวก เพื่อมูฟออน “สักวันเราต้องพบกับรักแท้ของเรา” เป็นแนวการคิดบวกเพื่อมูฟออน เพราะโชคชะตาของทุกคนย่อมจะมีคู่แท้ของตัวเอง ไม่มีใครที่ไม่มีคู่เพียงแต่ว่าเมื่อใดกันหนอที่บุญจะนำพาและวาสนาจะส่งให้พวกคุณโคจรมาพบกันก็เท่านั้น ฉะนั้นเมื่อไม่สมหวังกับความรักครั้งนั้น ๆ ก็ให้คิดเป็นกำลังใจกับตัวเองไว้ล่วงหน้าว่า เดี๋ยวในอนาคตเราก็จะได้พบกับคนที่ถูกสร้างมาเพื่อเราอย่างแท้จริง การผิดหวังในครั้งนี้มันไม่ใช่ตอนจบของชีวิตตัวละครนางร้ายหรือนางรองอย่างเราจริง ๆ สักหน่อย เดี๋ยวเราก็จะได้เป็นนางเอกของใครสักคนเมื่อถึงเวลาแล้วจะมูฟออนได้ “เรายังมีหน้าที่ของเราให้ต้องทำสำเร็จ” แนวการคิดบวกเพื่อมูฟออน “เรายังมีหน้าที่ของเราให้ต้องทำสำเร็จ” เป็นแนวการคิดบวกเพื่อมูฟออน ซึ่งบ่งบอกให้ทุกคนได้รู้ว่า เรายังมีหน้าที่มากมายในชีวิตที่ต้องทำให้สำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นอาชีพการงานและความฝันของเรา เพราะความรักที่ไม่สมหวังกับคนที่ชอบมันไม่ใช่จุดสิ้นสุดของแรงผลักดันทุกอย่างในชีวิตหรอก เขาเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น แต่ตัวคุณคือคนที่จะทำให้ความฝันและเป้าหมายสูงสุดเป็นจริงได้ ฉะนั้นอย่าเอาความผิดหวังในครั้งนี้มาปล่อยความฝันของคุณเองให้หลุดลอยเลย เพราะเขาไม่ใช่เจ้าชีวิตที่บอกว่าคุณมีค่าหรือไม่เมื่อเขาไม่ได้เลือกคุณ คุณย่อมมีค่าในตัวเองอยู่แล้ว คุณรู้ดี จงมูฟออนซะ “ที่ผ่านมาคือบทเรียนให้เราเติบโตขึ้น” แนวการคิดบวกเพื่อมูฟออน “ที่ผ่านมาคือบทเรียนให้เราเติบโตขึ้น” เป็นแนวการคิดบวกเพื่อมูฟออน […]
ผู้ชาย แบบไหนที่เสี่ยงไม่น่าคบ

ในการเลือกผู้ชายสักคนมาเป็นคนรักย่อมจะไม่ใช่เรื่องง่ายที่เพียงแค่เขาทำให้เราปิ๊งปั๊ง เราก็จะยอมรับเขาให้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของกันและกันแล้ว เพราะมนุษย์เราทุกคนย่อมจะมี 2 ด้านทั้งตัวเขาและตัวเรา เราจึงไม่ควรดูเพียงแค่การแสดงออกต่อหน้าที่เขาทำกับคุณเท่านั้น ไม่เช่นนั้นคุณอาจจะเสียใจได้ เพราะเวลาที่เขาอยู่กับคนอื่นหรือคนทั่วไปที่เขาไม่ได้คิดมีเป้าหมายอะไรก็จะแสดงออกถึงความเป็นตัวของตัวเองในด้านที่เสียออกมาได้จนทุกคนรู้ว่าเอกลักษณ์ในนิสัยของผู้ชายคนนี้เป็นอย่างไร ในขณะที่คุณไม่รู้และเอาแต่เชื่อการแสดงออกต่อหน้าคุณเท่านั้น ฉะนั้นวันนี้เราจึงอยากมาเตือนลักษณะ ผู้ชาย ที่คุณไม่ควรเสี่ยงคบด้วย เพราะหากคบกันนอกจากคุณจะเดือดร้อนจากตัวเขาที่ใกล้ชิดคุณจนสามารถมีสิทธิ์ทำอะไรกับคุณจนส่งผลกระทบต่อใจคุณได้แล้ว ก็อาจทำให้คุณถูกคนอื่นมองในเชิงว่า ทำไมจึงเลือกคนแบบนี้มาเป็นคู่ด้วย ผู้ชาย ที่โลเลเสี่ยงไม่น่าคบ “ผู้ชายโลเล” เป็นผู้ชายที่เสี่ยงไม่น่าคบด้วย เพราะผู้ชายลักษณะนี้จะมีนิสัยที่อยากคบใครก็คบ ขอแค่เพียงผู้หญิงคนนั้นทำให้เขาสามารถรู้สึกถูกใจ ประทับใจแตกต่างจากคนทั่วไป และอยู่ด้วยกันแล้วคุยกันถูกคอได้ก็เพียงพอที่จะคบกันแล้ว ซึ่งคนแบบนี้จะไม่มีการค่อย ๆ ดูใจกันไปในความสัมพันธ์ คิดแค่ว่าชอบก็คบ แต่ถ้าคบกันแล้วไม่ใช่ก็แค่เลิกเท่านั้น หรือผู้ชายโลเลบางคนก็มักจะไม่มองปัจจัยอื่นใดในการเลือกคนรัก เช่น นิสัยตัวตนปรับเขากันได้หรือไม่ มีแพชชั่นตรงกันไหม เป็นต้น แค่รู้สึกตกหลุมรักอีกฝ่ายก็มองว่าเขาคือคนที่ใช่แล้ว ซึ่งเสี่ยงง่ายมากต่อการที่ในสักวันหากเขาเจอคนที่ดีกว่าคุณก็จะเปลี่ยนใจได้ โดยไม่มองเลยว่า ผู้หญิงอย่างเราจะเจ็บปวดแค่ไหน ผู้ชายเพลย์บอยเสี่ยงไม่น่าคบ “ผู้ชายเพลย์บอย” เป็นผู้ชายที่เสี่ยงไม่น่าคบด้วย เพราะผู้ชายลักษณะนี้มักจะชอบเที่ยวเตร่ อยู่กับอบายมุขบ่อย คิดอยากทำอะไรก็ทำตามใจ เอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง ไม่ยอมให้เรามีสิทธิ์ได้ควบคุมเขา ไม่เช่นนั้นก็อาจจะเกิดความรุนแรงทะเลาะกันได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเป็นเรื่องผู้หญิงล่ะก็พวกเพลย์บอยจะชอบเข้าหามาก อารมณ์คนอยากโปรยเสน่ห์หล่อเลือกได้และคิดเก็บแต้ม บางคนก็จริงจังกับผู้หญิงคนนั้น ๆ บ้าง บางคนก็ไม่ได้จริงจัง […]
“การสกินชิพ” กับ “18+” แตกต่างกันอย่างไร ?

เวลาที่คุยกันในเรื่องการแสดงความรัก หรือ การสร้างปฏิสัมพันธ์ที่พัฒนาร่วมกับคนคุย คนรักของหลาย ๆ คน แน่นอนว่า หัวข้อที่ส่วนใหญ่วงเม้าท์มอยผองเพื่อนมักจะไม่พลาดกัน คือ เรื่องของเซ็กส์หรือไม่ก็การได้มีการแสดงความรักต่อกันขั้นแอดวานซ์แบบลึกซึ้งสองต่อสองที่มากกว่าการที่จะไปแสดงออกได้ตามสถานที่สาธารณะ อันเป็นหัวข้อที่ทำให้เหล่าคนโสดสายฮอตร้อน ๆ โรแมนซ์อยากมีโมเม้นต์แบบนั้นมาก และที่สังเกตเห็นได้ชัด หลายคนมักจะถามว่า “เขากับเธอมีการสกินชิพกันแบบไหนบ้าง?” หรือจะเป็นการถามว่า “เขากับเธอมี 18+ กันแล้วหรือ! ไวไฟนะเนี่ยเพื่อนเรา” ซึ่งด้วยความที่คำ 2 คำนี้อย่าง “การสกินชิพ” กับ “18+” มักจะถูกนำมาเป็นคำในหัวข้อที่พูดในเรื่องเดียวกันจึงทำให้หลาย ๆ คนคิดไปเองว่า สกินชิพ กับ 18+ เป็นการแสดงความรักแบบเนื้อแนบเนื้อในเชิงเหมือนกัน แต่ที่จริงแล้วไม่ใช่! ทำความรู้จักกับ “การสกินชิพ” กับ “18+” การสกินชิพ “สำหรับการสกินชิพ” หรือภาษาอังกฤษ คือ “Skinship” เป็นการแสดงออกการมีปฏิสัมพันธ์เชิงมิตรภาพและความรักกันแบบที่ฝ่ายหนึ่งมาสัมผัสกับร่างกายของอีกฝ่าย ซึ่งไม่จำกัดว่าจะมีการสัมผัสในสถานการณ์รูปแบบไหน สถานที่ใด และไม่จำกัดว่าคนที่สกินชิพจะต้องเป็นคนคุยหรือคนรักเท่านั้น แม้แต่เพื่อนกันก็สามารถทำกันได้ แต่ต้องอยู่ภายใต้กรอบของการที่คนทั้งคู่ต่างมีใจให้แก่กันและกันอยู่และยอมให้อีกฝ่ายแสดงความรักโดยการสัมผัสได้อย่างเชื่องช้า มอบความอบอุ่น และวาบหวามหน่อย ๆ […]
3 ลักษณะของ คู่รักที่ศีลเสมอกัน

ทุกคนย่อมต้องเคยได้ยินคำว่า “คู่รักที่ศีลเสมอกัน” มาไม่มากก็น้อยอย่างแน่นอน และไม่ว่าใครก็ย่อมอยากมีคู่ที่ศีลเสมอกันกับตัวเองทั้งนั้น เพราะว่ากันว่าหากใครได้คู่ครองที่ศีลเสมอกันอย่างแท้จริงจะนำพาให้ชีวิตเต็มไปด้วยความสุขที่มากขึ้นและเป็นส่วนเติมเต็มอย่างสมบูรณ์ที่เคยขาดหายไปอย่างแท้จริง แต่บางคนก็ไม่ได้บอกว่า ตัวเองไม่เห็นจะเจอคู่รักที่เสมอกันเลย สามวันดีสี่วันทะเลาะกันตลอด บ้างก็เป็นความรักที่มีอุปสรรคเข้ามาเป็นตัวขวางกั้นและมักมีเรื่องกันบ่อย แต่ก็ไม่เคยทอดทิ้งกันด้วยความรักที่มี ซึ่งไม่แน่หรอก…คนรักที่พวกคุณกำลังพูดถึงอยู่ตอนนี้ก็อาจเป็นคู่รักที่ศีลเสมอกันกับคุณก็ได้ เพราะแท้จริงคำว่า “ศีลเสมอกัน” หมายถึง “คนที่มีระดับความบริสุทธิ์ของจิตวิญญาณเท่ากัน” ทำให้คนที่ศีลเสมอกัน ไม่ใช่ว่าเป็นคนที่ดีเลิศ แต่เป็นคนที่มีจิตใจดีและไม่ดีเท่ากับคุณ หากจะให้เห็นภาพชัดกว่านี้ก็ต้องมาดูลักษณะคู่รักที่ศีลเสมอกันเลย คู่รักที่ศีลเสมอกัน จะเข้าใจกันดี คู่รักที่ศีลเสมอกันจะมีความเข้าอกเข้าใจกันดีมากไม่ว่าอีกฝ่ายที่เป็นคนรักตัวเองจะคิดสิ่งใด หรืออยากทำสิ่งใด อีกฝ่ายก็จะรู้ถึงปัจจัยที่ทำให้เขาตัดสินใจเช่นนี้ราวกับเขาคือหนึ่งในตัวตนของเราที่มีแค่เราเท่านั้นที่เข้าถึงความต้องการและนิสัยเบื้องลึกแท้จริงของเขา จึงไม่แปลกที่จะมีคำว่า “แม้คนส่วนใหญ่จะไม่รักเรา แต่เราก็ยังมีใครคนหนึ่งที่คอยอยู่เคียงข้างเข้าใจเราเสมอ” คู่รักที่ศีลเสมอกันจะมีความคิดมุมมองที่คล้ายกัน คู่รักที่ศีลเสมอกันจะมีความคิดมุมมองที่คล้าย ๆ กันในหลายเรื่องจนพวกเขายังตกใจว่า ทำไมอีกฝ่ายถึงได้เหมือนกับตนเองเสียจริง เพราะมันไม่ใช่เรื่องง่ายที่ในโลกซึ่งมีคนเป็นล้าน ๆ คนหลากความคิดหลากมุมมอง เราจะได้เจอกับใครคนหนึ่งที่เขามีความคิดและทัศนคติหลักต่อโลกไปในทางเดียวกับเราได้มากขนาดนี้ ยิ่งทัศนคติของเรามีความแหวกแนวจากคนอื่น ๆ แล้วได้เจอเขาล่ะก็นี่ไม่ใช่ความบังเอิญแน่นอน คู่รักที่ศีลเสมอกันมีเป้าหมายชีวิตไปในทางเดียวกัน คู่รักที่ศีลเสมอกันจะมีเป้าหมายชีวิตหรือความใฝ่ฝันสูงสุดไปในทางเดียวกันหรือคล้ายกันมาก เช่น คนหนึ่งอยากเป็นหมอเพื่อช่วยเหลือคนที่ป่วย ส่วนอีกคนก็อยากเป็นตำรวจเพื่อช่วยเหลือผู้เดือดร้อนและผู้ที่อยู่ในอันตราย เป็นต้น ซึ่งพอได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันก็ทำให้พวกเขาได้เห็นว่า ต่างฝ่ายต่างก็อยากทำเพื่อคนในสังคมจริง ๆ ไม่ได้อยากทำเพราะกระแสค่านิยมในอาชีพการงานหรือความมั่นคงเลย นอกจากนี้คู่รักที่ศีลเสมอกันก็ไม่ได้มีแต่คู่รักที่ดีด้วย […]
“เฟรนด์โซน” เป็นสถานะแบบไหน ?

คำว่า “เฟรนด์โซน” พูดเบา ๆ ก็เจ็บสำหรับคนที่หลงรักอีกฝ่ายที่อยู่ในสถานะนี้มานานในแบบที่มากกว่านี้หรือในแบบของคนพิเศษ แน่นอนว่าตั้งแต่มีภาพยนตร์ไทยเรื่อง “เฟรนด์โซน” ออกมาก็ทำให้ผู้คนให้ความสำคัญกับการมองคำคำนี้มากขึ้นจนกลายเป็นคำพูดติดปากสำหรับคนที่สนิทกัน แต่เป็นสถานะทั่วไปที่ไม่ใช่คนพิเศษ ซึ่งหากเราจะพูดเพียงเท่านี้บางคนก็อาจจะยังงงกับคำว่า “เฟรนด์โซน ระวังสิ้นสุดทางเพื่อน” อยู่ว่า สรุปแล้วคำคำนี้มันหมายถึงอะไรกันแน่ ทำไมผู้คนต้องให้ความสำคัญและเจ็บกับสถานะนี้มากด้วย ในวันนี้เราจะมาเจาะให้คุณได้รู้จากการนำสถานะที่เด่นชัดของคนสองคนมาบอกกันเลยว่าแบบไหนจึงจะเรียกว่า “เฟรนด์โซน” ซึ่งหากคนคนนั้นคิดกับอีกฝ่ายมากกว่าเฟรนด์โซนล่ะก็ย่อมจะมี 2 ทาง คือ หากบอกไปอาจสมหวังเพราะเขาก็แอบรู้สึกใจตรงกันกับเรามานานแล้ว กับ หากบอกไปก็จะผิดหวังเพราะเขาไม่อยากให้ล้ำเส้นเกินกว่าสถานะเฟรนด์โซนที่เป็นได้ จะมีสถานะใดบ้างที่เรียกว่า “เฟรนด์โซน”? “เฟรนด์โซน” แบบคิดกับเขาเกินเพื่อน แต่บอกไม่ได้ สถานะ “เฟรนด์โซน” นี้เป็นสถานะของเพื่อนที่คบกันมานานมาก ๆ จนต่างฝ่ายต่างก็รู้สึกใจตรงกันว่า ลึก ๆ ทั้งเราและเขาต่างก็ชอบกันมากกว่าเพื่อนไปแล้ว แต่ก็ยังไม่กล้าที่จะสารภาพรักกันเพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะปฏิเสธ ด้วยหากอีกฝ่ายมองว่าสถานะเพื่อนมันยืนยาวกว่าแฟนก็น่าจะเป็นเรื่องที่ดีที่สุด จึงจะผิดหวังได้ และบ้างก็กลัวว่า ในสถานะเฟรนด์โซน บรรยากาศการพูดคุยและแสดงออกของเรากับเขามันเหมือนเพื่อนกันซี้ปึ้กกันแบบนี้จนชินแล้ว หากให้เปลี่ยนสถานะก็จะต้องเปลี่ยนสรรพนามและเปลี่ยนบรรยากาศต่าง ๆ ซึ่งอาจจะทำให้เขินอายและมีเส้นกั้นความซี้ปึ้กที่มากขึ้นก็ได้จึงทำให้ทั้งคู่ติดอยู่กับสถานะเฟรนด์โซนแบบนี้ “เฟรนด์โซน” แบบรักเพื่อนข้างเดียว สถานะ “เฟรนด์โซน” นี้ เป็นสถานะที่คนสองคนเป็นเพื่อนกัน […]
สถานที่มู ขอเนื้อคู่ยุคใหม่

เมื่อจำนวนประชากรไทยในยุคปัจจุบันนี้มีอัตราการโสดมากกว่าสมัยก่อนมากขึ้นและมีการเฟ้นหาคนที่ใช่จากการดูใจกันหรือเป็นคนคุยกันนานเพื่อให้มั่นใจในการเลือกคนที่จะมาเป็นคู่รักอย่างเคร่งครัดมากขึ้น จึงทำให้เหล่าคนโสดมากมายหันมาทำกิจกรรมการค้นหาคนที่จะมาเป็นแฟนในอนาคตกันด้วยกิจกรรมหลายอย่างมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการนัดบอด การโหลดแอพพลิเคชั่นหาคู่ออนไลน์ หรือแม้กระทั่งการไปมูเพื่อขอเนื้อคู่กับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเรียกได้ว่ากิจกรรมอย่างหลังเป็นที่นิยมกันมากในวันนี้ เมื่อผู้คนหันมาศรัทธาในเรื่องสิ่งเหนือธรรมชาติที่ทำให้เกิดปาฏิหาริย์เป็นที่ประจักษ์กันอย่างอัศจรรย์มากขึ้น อีกทั้งเคยมีหลายคนไปขอพรความรักก็มักจะได้สมหวังภายในเวลาไม่นาน โดยเฉพาะกับการขอพรเทพฮินดูซึ่งมักจะได้รับการสมความปรารถนาเรื่องความรักมากที่สุด วันนี้เราจึงอยากมาแนะนำ สถานที่มู ขอเนื้อคู่ยุคใหม่ให้คุณได้ไปกัน! ฉันจะต้องได้เจอคู่เร็ว ๆ นี้ แนะนำให้รู้จักกับ 3 สถานที่มู ขอเนื้อคู่ “พระแม่ลักษมี ตึกเกษร” สถานที่มูขอเนื้อคู่ยุคใหม่ “พระแม่ลักษมี ตึกเกษร” เป็นสถานที่มูขอเนื้อคู่ยุคใหม่ เพียงแค่คุณขึ้นมายังดาดฟ้าชั้น 4 ของตึกเกษรวิลเลจ (อาคารศูนย์การค้าเกษรเดิม) ก็จะพบกับรูปปั้นพระแม่ลักษมีสีทองอยู่ที่หัวมุมของดาดฟ้าแล้ว โดยคุณต้องมีของไหว้ ได้แก่ ดอกบัวสีชมพู น้ำอ้อย หรือผลไม้รสอ่อน ๆ เช่น มะพร้าว เป็นต้น ไปถวาย สวดคาถาพร้อมขอพรกับพระแม่ลักษมี ท่านก็จะประทานพรให้คุณ ซึ่งนอกจากเรื่องเนื้อคู่และความรักก็สามารถขอพรเรื่องอื่นได้สำเร็จเช่นกัน แต่สายขอเนื้อคู่จะบอกต่อกันมาว่าขอแล้วได้คู่รวดเร็วกันมากที่สุดจึงโด่งดังด้านนี้ แนะนำให้ไปไหว้วันศุกร์ตั้งแต่ 10.00 – 18.00 น “พระแม่อุมาเทวี วัดแขกสีลม” สถานที่มูขอเนื้อคู่ยุคใหม่ […]
ทริคถ่ายรูป พรีเวดดิ้งริมทางรถไฟ

“เส้นทางรถไฟ” เป็นเส้นทางที่มีความยาวมากจนเรียกได้ว่ายาวสุดลูกหูลูตาข้ามจังหวัดและบางเส้นทางรถไฟก็มีระยะทางยาวข้ามไปยังอีกประเทศหนึ่งได้ด้วย และเมื่อเส้นทางรถไฟมีความยาวเช่นนี้จึงไม่แปลกที่เหล่าคู่รักจะได้ใช้ช่วงเวลาที่ได้อยู่บนรถไฟที่เคลื่อนตัวนานแบบนี้ในการเดินทางโดยสารรถไฟเพื่อให้การเดทและการฮันนีมูนมีความคอมพลีทเป็นส่วนตัว ได้อยู่ด้วยกันสองต่อสองมากกว่าที่เคยเป็น จึงเป็นเส้นทางที่มีชื่อเสียงในความโรแมนติกของคู่รักมาตั้งแต่ยุคคลาสสิกมาก ด้วยเหตุนี้ในปัจจุบันคู่บ่าวสาวที่กำลังหาสถานที่ถ่ายรูปพรีเวดดิ้งแบบ Outdoor จึงหันมาเลือกสถานที่ริมทางรถไฟเป็นหนึ่งในสถานที่ถ่ายรูปยอดนิยมซึ่งได้เห็นรางรถไฟที่สวยงามทอดตัวยาวบนเนินอย่างโดดเด่นไปไกลสุดสายตามาก ซึ่งยิ่งพวกคุณได้ ทริคถ่ายรูป พรีเวดดิ้งริมทางรถไฟดี ๆ มาด้วยแล้วล่ะก็จะยิ่งทำให้เหล่าคู่บ่าวสาวได้ภาพในมุมและเรื่องราวที่งดงามเกินบรรยายไปเลย 3 ทริคถ่ายรูป พรีเวดดิ้งริมทางรถไฟ ถ่ายรูปพรีเวดดิ้งจับมือคนละฝั่งของทางรถไฟ การที่คู่บ่าวสาวจับมือกันเดินคนละฝั่งของทางรถไฟแบบที่คนหนึ่งยืนอยู่ขอบรางรถไฟข้างซ้ายและคนหนึ่งยืนอยู่ที่ขอบรางรถไฟข้างขวาจะทำให้ภาพถ่ายพรีเวดดิ้งริมทางรถไฟของพวกคุณได้เรื่องราวความรักของคนรักที่พร้อมจะฝ่าฟันอุปสรรคปัญหาต่าง ๆ ของตัวเองและของทั้งคู่ร่วมกันไปตลอดรอดฝั่งไม่ว่าจะหนักหนาหรือมีเป้าหมายความสำเร็จที่ยังคงยาวไกลแค่ไหนก็จะอยู่เคียงข้างกันตลอดไป ช่างโรแมนติกนัก ยิ่งถ่ายรูปเห็นทิวทัศน์สวยงามริมทางรถไฟ เช่น บ้านเรือน ทุ่งดอกไม้ ทุ่งหญ้า ป่าไม้ เป็นต้น จะยิ่งสวยงามมีชีวิตชีวามาก ถ่ายรูปพรีเวดดิ้งหน้าอุโมงค์รถไฟบนทางรถไฟ หากคุณอยากได้รูปถ่ายพรีเวดดิ้งริมทางรถไฟที่มีความลึกลับน่าค้นหาแต่ก็แฝงด้วยความโรแมนติกได้เรื่องราวของคู่รักที่พร้อมเดินคู่กันแม้หนทางจะมืดมนหรือเต็มไปด้วยสิ่งที่ไม่รู้อยู่ด้านหลังของอุโมงค์ที่มืด แต่ขอแค่มีความรักเป็นสิ่งที่นำทางก็เพียงพอแล้ว บอกเลยว่าจะเป็นภาพที่ลึกลับและสวยงามอย่างมาก ทริกดี ๆ คือ ให้พวกคุณเลือกอุโมงค์รถไฟที่มีลักษณะสถาปัตยกรรมแบบศิลปะที่สวยงามเป็นเอกลักษณ์ หากอยากได้คลาสสิกก็หาอุโมงค์ศิลปะคลาสสิกเลย หากอยากได้อุโมงค์ยุคใหม่ก็หาอุโมงค์ที่มีคสามทันสมัยแปลกตาแล้วจะทำให้ภาพถ่ายพรีเวดดิ้งริมทางรถไฟสวยเก๋มากโดยมีพวกคุณยืนอยู่บนรางรถไฟด้านหน้าอุโมงค์ ถ่ายรูปพรีเวดดิ้งการบรรจบของรถไฟกับรางบนทางรถไฟ การถ่ายรูปพรีเวดดิ้งริมทางรถไฟอีกทริกที่ให้ความละมุนโรแมนติกของความรักคู่บ่าวสาวและมีเรื่องราวโชคชะตาที่ทำให้ซึ้งกินใจ คือ การสร้างเหตุการณ์ริมทางรถไฟที่ชวนให้น่าจดจำอย่างการถ่ายรูปโดยให้คนหนึ่งนั่งอยู่บนรถไฟแล้วเอื้อมมือไปจับคนรักที่อยู่ด้านล่างรถไฟด้วยความหวงแหนและโหยหา หรือมองสบตากันผ่านบานหน้าต่างของรถไฟก็จะเป็นเรื่องราวถ่ายทอดผ่านรูปพรีเวดดิ้งริมทางรถไฟที่ดีมาก อัพเดทข่าวสาร สาระดีๆ เพิ่มเติมที่ The7days #พรีเวดดิ้ง #ทริคถ่ายรูป
เวลล์เจ้าสาว ยุคใหม่

เมื่อจะกล่าวถึง “เวลล์” ผ้าคลุมศีรษะของเจ้าสาวที่มีกันตามธรรมเนียมมาตั้งแต่สมัยโบราณแล้ว ในลักษณะของผ้าที่เป็นสีขาวยาวฟูโดยมีตั้งแต่ผ้าคลุมศีรษะที่ยาวถึงเพียงแผ่นหลังและผ้าเวลล์คลุมศีรษะที่ยาวจนระพื้นซึ่งต้องมีคนจับเลยด้วย ซึ่งเวลล์เจ้าสาวนั้นถูกทขึ้นด้วย 2 เหตุผล คือ นอกจากจะทำให้เจ้าสาวดูสวยและลึกลับเพราะเป็นการปิดกั้นใบหน้ายามที่เข้ามาในโบสถ์คริสต์ให้มีความเรียบร้อยตามธรรมเนียม เป็นการไม่ให้เจ้าบ่าวเห็นหน้าเจ้าสาวก่อนทำพิธีสำคัญในการสัญญารักต่อกันแล้ว อีกเหตุผลหนึ่งก็คือ ผ้าเวลล์ยังถูกสร้างขึ้นด้วยความเชื่อของชาวคริสต์ที่ว่า ผ้าเวลล์จะสามารถปกป้องสิ่งชั่วร้ายต่าง ๆ ที่จะเข้ามาสู่เจ้าสาวในวันแต่งงานได้ด้วย ทำให้วันที่ฤกษ์ดี ๆ มีแต่สิ่งดี ๆ ไม่มีอะไรมาขัดขวางคู่บ่าวสาวระหว่างทำพิธี นอกจากนี้ในปัจจุบัน เวลล์เจ้าสาว ยังถูกออกแบบมาให้มีความสวยงามที่หลากหลายด้วยจนอาจกล่าวได้ว่ามีเวลล์หลายเวลล์ที่นิยมกันและทำให้ดูเหมือนเจ้าสาวที่ออกมาจากโลกจินตนาการสุด ๆ ซึ่ง เวลล์เจ้าสาวยุคใหม่ที่นิยมสุดจะมีเวลล์ใดบ้างมาอ่านกันเลย แนะนำกับ 3 เวลล์เจ้าสาว ยุคใหม่ “หมวกประดับตาข่ายเวลล์สั้น” เวลล์เจ้าสาวยุคใหม่ “หมวกประดับตาข่ายเวลล์สั้น” เป็นเวลล์เจ้าสาวยุคใหม่ที่ถูกออกแบบมาด้วยการประยุกต์ของชาวตะวันตกในสมัยก่อนที่ผู้หญิงเวลาไปออกงานสำคัญที่เป็นทางการกันก็มักจะสวมใส่หมวกที่มีลักษณะแบนประดับด้วยกิมมิคตาข่ายเล็ก ๆ ที่ห้อยปิดบังใบหน้าบริเวณดวงตาลงอย่างสวยงามและทำผมเกล้ามัด ทำให้มีเสน่ห์ในใบหน้าและเข้ากับการแต่งกาย ซึ่งเจ้าสาวยุคใหม่ก็ได้นำแฟชั่นนี้มาทำเป็นเวลล์แบบฉบับที่ไม่ต้องถอดเข้าถอดออกและยาวจนพวกเธอเดินไปไหนมาไหนไม่สะดวกเลย “เวลล์ประดับไฟ” เวลล์เจ้าสาวยุคใหม่ “เวลล์ประดับไฟ” เป็นเวลล์เจ้าสาวยุคใหม่ที่เพียงแค่เจ้าสาวเดินเข้ามาในงานก็ทำให้นึกว่าเธอถูกเนรมิตเวลล์ด้วยนางฟ้าแม่ทูนหัวเหมือนในเทพนิยายอมตะแล้ว เพราะเวลล์ของพวกเธอนั้นเต็มไปด้วยไฟมากมายที่กะพริบระยิบระยับเหมือนรวมดวงดาวที่สุกสกาวทั้งดวงไว้ที่ผ้าคลุมศีรษะนี้ ซึ่งแท้จริงแล้วมาจากการที่เกิดแนวคิดนำหลอดไฟ LED พ่วงมาร้อยติดเวลล์นั่นเอง “เวลล์มุกเถาวัลย์กุหลาบ” เวลล์เจ้าสาวยุคใหม่ “เวลล์มุกเถาวัลย์กุหลาบ” เป็นเวลล์เจ้าสาวยุคใหม่ ที่เวลล์ของเจ้าสาวจะได้มีความสวยงามของไข่มุกสีขาวบริสุทธิ์ที่เข้ากับชุดเจ้าสาวที่มีแต่ความสะอาดบริสุทธิ์ด้วยเช่นกัน […]