
คลุมถุงชนหรือการบังคับแต่งงาน สมัยนี้คงไม่มีใครทำแบบนั้นแล้ว เพราะเป็นการบังคับจิตใจกันและแน่นอนว่าการบังคับให้ผู้อื่นทำอย่างหนึ่งโดยไม่เต็มใจนั้นเป็นสิ่งผิดกฎหมาย ทำให้วัฒนธรรมการคลุมถุงชนค่อยๆหายไปจากโลก แต่เคยสงสัยกันไหมว่า คำพูดที่คนโบราณกล่าวว่า การคลุมถุงชนเป็นเรื่องที่ดี อยู่กันไปเดี๋ยวก็รักกันเองเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า บทความนี้ผู้เขียนจึงจะมาวิเคราะห์ว่า การที่คนเราไม่ได้รักกัน แต่ตกมาอยู่ในสถานะของคู่รักด้วยความจำเป็นหรือเหตุสุดวิสัยต่างๆจะรักกันได้เหมือนอย่างในละครหรือไม่

อะไรทำให้คนที่ถูกคลุมถุงชนรักกัน
สำหรับผู้เขียนแล้วคิดว่า ความรักเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน สามารถเกิดขึ้นได้โดยไม่ทันคาดคิด และเป็นเหมือนการเสี่ยงโชค การคลุมถุงชนก็เช่นกัน ทั้งสองฝ่ายไม่รู้เลยว่าจะได้เจอคนแบบไหน อาจเป็นคนหน้าตาดี นิสัย รูปร่างตรงสเปค หรืออาจไม่ถูกสเปคเลยก็ได้ แต่ถึงจะถูกสเปคได้ครองรักกันตรงใจ ก็ใช่ว่าจะรักกันไปจนวันตาย เพราะโลกนี้คือความไม่แน่นอน คนเราเปลี่ยนแปลงไปได้ตลอดเวลา ทั้งความรู้สึก การกระทำ ความคิด อยู่ที่ว่าเราจะยังรักคนคๆนั้นหรือไม่ เมื่อเขาเปลี่ยนแปลงไป การอยู่กับคนที่ไม่ได้รักก็เช่นกัน มีโอกาส 50 50 ที่จะรักกันได้ในอนาคตหรือไม่รักกันเลยจนวันตาย คำว่า อยู่กันไปเดี๋ยวก็รักกันเอง จึงมีโอกาสเกิดขึ้นได้ แถมยังเกิดขึ้นได้ง่ายอีกด้วย เพราะมนุษย์ทุกคนต่างมีแรงดึงดูดต่อกัน โดยเฉพาะเพศตรงข้าม ยิ่งอยู่ใกล้กัน เจอหน้ากัน สร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันในทุกๆวัน ยากที่จะไม่รู้สึกรัก แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าคนทั้งสองคนจะให้เกียรติกันแค่ไหนด้วย หากต่างคนต่างเคารพซึ่งกันและกันไม่ทำให้อีกฝ่ายรู้สึกไม่ดี ถนอมความรู้สึกกันอยู่เสมอ ไม่ว่ากับใครก็ย่อมเกิดเป็นความรักได้ อาจไม่ใช่ความรักในเชิงชู้สาว แต่ก็ไม่แย่นัก เพราะอย่างน้อยก็ยังมีเพื่อนที่คอยอยู่เคียงข้างกันตลอด ไม่ว่าในยามทุกข์หรือสุข กลับกันหากต่างฝ่ายต่างมีความเห็นไม่ตรงกันและจ้องจะทำร้ายกันอยู่เสมอ ย่อมอยู่กันไม่ได้ ละครที่เริ่มเรื่องมาด้วยการที่พระเอกนางเอกไม่ถูกกัน แล้วรักกันจะเป็นจะตายในตอนจบนั้น แม้จะดูน้ำเน่าไปหน่อย แต่ผู้เขียนคิดว่าก็มีโอกาสเกิดได้อยู่ เพราะอย่างที่บอกไปว่า ความรู้สึกของคนเราเปลี่ยนไปได้ตลอดเวลา ขอเพียงแค่มีปัจจัยเสริมเข้ามาทำให้ความสัมพันธ์แปรเปลี่ยนก็เพียงพอแล้ว

ในทางวิทยาศาสตร์เองก็มีงานวิจัยว่า คนที่อยู่ด้วยกันบ่อยๆมักจะมีพฤติกรรมหรือบางสิ่งบางอย่างคล้ายกัน เพราะร่างกายจะหลั่งสารแห่งความผูกพันออกมา ทั้งนี้ผู้เขียนไม่ได้จะบอกว่าการคลุมถุงชนเป็นเรื่องดี แต่จะมาชี้ให้เห็นว่าโลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอนอยู่อีกเยอะ