วันแห่งความรัก – โรแมนติก – อกหัก รับมืออย่างไร? เมื่อพูดถึงโอกาสพิเศษของการแสดงความรัก “วันวาเลนไทน์” คงเป็นวันที่ทุกคนนึกถึง ด้วยภาพของการมอบของขวัญ ไปสถานที่พิเศษ ฯลฯ เพื่อสร้างความประทับใจให้กับคนรัก แต่ในทางวิชาการก็มองว่าวันแห่งความรักนั้นดูเหมือนเป็นวันของคนที่อกหักและกระเป๋าแบน โดยผลการศึกษาเมื่อปี 2004 พบว่าคู่รักมีโอกาสเลิกกันจากเดิมที่ร้อยละ 24 ทยานไปถึง 40 ในวันวาเลนไทน์และมากกว่าช่วงวันอื่นๆ ของปี ซึ่งก็น่าสนใจตรงที่กล่าวมาเป็นการคาดการณ์สำหรับคู่รัก แต่ไม่ใช่คู่ที่มีความสัมพันธ์อันมั่นคงหรือกำลังเริ่มต้นคบหาดูใจ ดังนั้นผู้เขียนจะมาบอกเล่าสิ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับวันวาเลนไทน์กัน
[read more]
ต้นกำเนิดของ วันแห่งความรัก

ย้อนกลับไปหลายร้อยปีก่อน วันที่ 14 กุมภาพันธ์ ถูกสร้างขึ้นเพราะเคยเป็นโอกาสพิเศษของนักบุญนามว่า “วาเลนไทน์” ประกอบกับการใส่วัตถุดิบอย่าง “ความรักแบบโรแมนติก” ลงไปโดยเหล่านักกวีแห่งอังกฤษในยุคกลาง ประชาชนก็เห็นดีต่อวันแห่งความรักจนได้รับความนิยม ในเวลาต่อมาก็เริ่มมีการแสดงความรักผ่านการเขียนลงบนกระดาษที่ตกแต่งมาเป็นอย่างดี หรือ การ์ดวาเลนไทน์ นั่นเอง รวมไปถึงการโฆษณาจนกลายเป็นกระแสไม่น้อยไปกว่าวันวาเลนไทน์ตั้งแต่นั้นมา
วันที่คนไม่ยอมคำปฏิเสธและใช้จ่ายอย่างเต็มที่

จากประสบการณ์ของแต่ละคนอาจทำให้มองวันนี้ต่างกัน บางคนอาจใช้วันแห่งความรักนี้เป็นโอกาสในการบอกรักหรือของใครสักคนเป็นแฟน แน่นอนว่าไม่มีใครบอกได้เลยว่ามันคุ้มกันไหมที่บอกในวันนี้ แต่มีข้อเท็จจริงโดยผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาสังคมกล่าวว่า การถูกปฏิเสธนั้นทำให้จิตใจเจ็บปวดในรูปของความเครียดในระบบประสาท ซึ่งเกิดจากการถูกตัดขาดทางสังคม ลองนึกภาพของการบอกรักใครสักคนและอีกฝ่ายก็ทำตัวเปลี่ยนไปกับเรา ถ้าอย่างนั้นเราลองหาแฟนในเว็บหาคู่ดีไหมล่ะ… แม้การใช้วิธีอาจจะไม่มีข้อมูลที่การันตีว่าจะพบรักแท้ แต่ก็ช่วยแบ่งเบาความเหงาและอาจมีแฟนก็เป้นได้ ส่วนการใช้จ่ายในวันพิเศษเช่นนี้จะไม่ใช่เรื่องแย่และเป็นสิ่งที่แสดงความเอาใจใส่ โดยเงินที่จ่ายไปนั้นจะคุ้มก็ต่อเมื่ออยู่ในเกณฑ์คร่าวๆ เช่น ซื้อสิ่งของหรือประสบการณ์ การช่วยออกเงินในวันนี้อาจไม่ใช่เรื่องที่อีกฝ่ายอยากให้ทำ หรือการซื้อของขวัญให้ตรงกับความต้องการของอีกฝ่ายจริงๆ ทั้งนี้ลองเอาไปปรับใช้กันตามบริบทนะครับ

อัพเดทสาระดีๆทุกวันต่อได้ที่ The7days
[/read]